พื้นที่น้อย ใช้แรงงานน้อย สร้างรายได้เดือนละ 30,000

“ต้นอ่อนทานตะวันมากไปด้วยประโยชน์ และอร่อย สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่างแถมยังปลอดสารพิษ”

จากการศึกษาการปลูกจากอินเตอร์เน็ตและเวปไซต์ต่างๆ ลองผิดลองถูกมามาก คุณวรพล กล่ำเอม นำประสบการณ์ดีๆ จากการเพาะต้นอ่อนทานตะวันเพื่อจำหน่าย สร้างรายได้ ขอบอกว่าง่ายมาก

ช่วงแรกที่เริ่มเพาะถั่วงอก ผลตอบรับไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพราะด้วยต้นไม่สมบูรณ์ ไม่อวบ ขาว ถึงจะเป็นถั่วงอกเพื่อสุขภาพและปลอดสารก็ตาม เลยหันมาเพาะต้นอ่อนทานตะวัน ด้วยความที่เป็นที่นิยมของกลุ่มผู้รักสุขภาพ และตลาดในพื้นที่ตอบรับดี 

-          1. ใช้พื้นที่น้อย สถานที่ใดก็เพาะได้

-          2. วัสดุ อุปกรณ์หาไม่ยาก เช่น ตะกร้า กะละมัง หรือวัสดุที่เราไม่ใช้แล้วมาเพาะต้นอ่อนทานตะวัน

-          3. ใช้ระยะเวลาในกาเพาะสั้น เพียง 7 วัน สามารถเก็บเกี่ยว น้ำไปประกอบอาหารหรือจำหน่ายได้

-          4. ให้คุณค่าทางอาหารสูง ทั้ง วิตามิน A ,E,B1 ,B6 , โอเมก้า 3 ,6, 9  บำรุงสมอง ลดคอเรสเตอรอล

-          5. ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

-          6. เป็นที่ต้องการของตลาดสูง

-          -   เมล็ดพันธุ์ (พันธุ์เมล็ดลาย หรือ เมล็ดสีดำ) ขึ้นอยู่กับความชอบ ควรเลือกเมล็ดที่ไม่มีการเคลือบ หรือคลุกยาฆ่าแมลง ใช้เมล็ด ประมาณ 130 กรัม ต่อถาด 1 ถาด

-          -   ดินปลูก อาจเป็นดินตามร้านขายต้นไม้ หรือดินที่ผสมมาเรียบร้อยแล้ว

-          -  ถาดหรือภาชนะปลูก ส่วนใหญ่ใช้ถาดสี่เหลี่ยมสีดำ เพราคงทน ง่ายต่อการดูแลและง่ายต่อการเก็บเกี่ยว

-          -  มีดตัดต้นอ่อนทานตะวัน ควรเป็นมีดที่มีความคม (สแตนเลส) เพื่อเวลาตัดต้นอ่อนจะได้ไม่ช้ำ

-          -  นำเมล็ดแช่น้ำ ประมาณ 8-12 ชม. (เมล็ดที่ดีต้องจมน้ำ) ส่วนที่ลอยอัตราการงอกจะลดลงหรือไม่งอกเลย

-           -   เมล็ดขึ้นจากที่แช่ ใส่ภาชนะที่มีรูระบายผึ่งให้สะเด็ดน้ำ นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ คลุมเมล็ดประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วนำผ้าชุบหมาดๆ อีกผืน มาวางรองก้นภาชนะ นำเมล็ดมาเทใส่บนผ้า นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาคลุมอีกที เพื่อทำการบ่มเมล็ดทานตะวันก่อนลงปลูก

-      -   เมล็ดทานตะวันพันธุ์ลาย จะใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาคลุม ห้ามแฉะมากเกินไป บ่มไว้ประมาณ 20 ชั่วโมง ถึงจะมีรากงอกออกมา

-             -        เมล็ดสีดำ จะใช้ผ้าคลุมหรือห่อผ้าที่เปียกมากๆ หน่อย บ่มประมาณ 24 ชั่วโมง รากจึงจะงอกออกมา

-       -    นำดินใส่ถาดเหลี่ยมดำที่เตรียมไว้ หนาประมาณ 2 ซม. หรือเสมอขอบถาดที่เพาะ เกลี่ยดินให้สม่ำเสมอ

-       -    เปิดผ้าคลุมออก เมล็ดจะมีรากงอกออกมา 2-3 มิล นำมาโรยบนถาด อย่าให้เมล็ดทับถมกัน หรือซ้อนกันหนาเกินไป เพราะจะทำให้รากที่งอกไม่ยึดตึดกับดิน และต้นอ่อนไม่หนาแน่นจนเกินไป โรยเสร็จใช้ดินกลบอีกทีแบบบางๆ

-      -  รดน้ำให้ชุ่มจนซึมไหลผ่านภาชนะปลูก นำภาชนะทึบแสงมาคลุมปิดถาดเพาะเมล็ดทานตะวัน วางไว้ในที่ร่ม อย่าให้โดนแสง 3 วัน

-       -   คอยสังเกตเมื่อถาดที่คลุมลอยขึ้น ให้เอาถาดที่คลุมออก (วิธีนี้จะทำให้ต้นอ่อนทานตะวันสูงและเติบโตเท่ากัน)

-       -  นำถาดเพาะวางไว้ในแสงแดดรำไร อย่าให้โดนแสงโดยตรง (เพื่อไม่ให้ต้นอ่อนไหม้หรือแดดลวก)

-       -   สามามารถรดน้ำได้ตามปกติ ควรรดช่วงเช้าและเที่ยง 2 เวลา ไม่ควรรดตอนเย็น (จะทำให้เกิดเชื้อรา)

-       -   เมื่อต้นอ่อนอายุ 6-7 วัน ให้นำต้นอ่อนไปโดนแสงแดดอ่อนประมาณ 3-4 ชั่วโมง แล้วจึงทำการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยใช้มีดคมๆ ตัดที่โคนของต้นอ่อน (มีดไม่คมจะทำให้ต้นช้ำมีผลให้อายุการเก็บรักษาสั้นลง)

-        -  นำต้นอ่อนมาทำความสะอาด ผึ่งให้แห้ง แพคเพื่อจำหน่าย (ต้นอ่อนทานตะวันสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 7 วัน)

-          นำไปขายตามศูนย์ราชการ โรงพยาบาล เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่มีกำลังซื้อและรักสุขภาพ

-          ขายตามแหล่งชุมชน ร้านอาหาร ตามเฟสบุ๊ค

-          เลิกใช้ขุยมะพร้าวแล้วเปลี่ยนเป็นดินผสมเสร็จ ลองหลายๆ ยี่ห้อ ดูว่ายี่ห้อไหนปลูกแล้วต้นอ่อนเจริญเติบโตได้ดี

-          ตอนแช่น้ำแยกเมล็ดที่ลอยน้ำทิ้ง ใช้แต่เมล็ดที่จม

-          ช่วงเวลาเพาะบ่มไม่ควรให้รากยาวออกมามากเกินไป เพราะต้นะไม่สามารถตั้งขึ้นได้

    สาเหตุหลักๆ ของเชื้อรา อาจมาจากเชื้อที่อยู่ในดิน หรือเมล็ดที่นำมาเพาะ การเพาะต้นอ่อนทานตะวันไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี หรือปุ๋ยชีวภาพใดๆ ทั้งสิ้น ต้นและขนาดขึ้นอยู่กับเมล็ดพันธุ์ และวิธีการดูแลจนถึงการเก็บเกี่ยว แค่นี้เชื้อราก้น้อยลงหรือไม่พบเลย