H2O Hydro Garden
ที่อยู่: เลขที่ 8 ซอย นาคนิวาส 53 ลาดพร้าว 71 แขวง ลาดพร้าว กทม. 10230
เบอร์โทร: 02 932 9200 มือถือ: 086 500 9698, 084 106 6831
.jpg)
.jpg)
.png)
แชร์ประสบการณ์ขายผักตลาดสี่มุมเมือง วันนี้เจอบทความดีๆเลยอยากนำมาแชร์ต่อนะคะ เกี่ยวกับการขายผักให้ตลาด 4 มุมเมือง สำหรับรายใหญ่ที่มีที่และต้องการปลูกผักส่งเป็นจำนวนมากนะคะ แนะนำเข้าตลาดนี้ เพาะรับทีจำนวนเยอะ แต่เรื่องราคานั้นอาจจะไม่สวยเท่าไหร ทางฟาร์ม H2O Hydro Genden เคยนำเอาผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ไปขายเช่นกัน ได้ราคาโลละประมาณ 55-65 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับการขายปลีกหน้าฟาร์ม (โลละ 120 บาท) เราถือว่าไม่คุ้มค่ะ การขายตลาด 4 มุมเมือง จึงขายตอนที่ผักล้นจริงๆเท่านั้น และจะเป็นตลาดแหล่งสุดท้ายที่ฟาร์มเราเลือกที่จะไปขายค่ะ อย่างไรก็ตาม สำหรับท่านที่ต้องการลองดู ไม่เสียหายค่ะ ลองเข้าไปขายดู เอาบทความนี้เป็นguildlineก่อนก็ได้นะคะ เอาประสบการณ์ตรงของ คุณออนซอนแกนิค สวนเกษตรลูกอิสาน ซึ่งได้เขียนบอกเล่าถึงประสบการณ์ในการเป็นพ่อค้าใหม่ที่จะไปขายผักตามตลาดขายส่งใหญ่ๆ หลายแห่ง ซึ่งวันนี้เป็นประสบการณ์ในการเข้าไปขายที่ตลาดสี่มุมเมืองครับ
ตอนที่ 1 ตลาดสี่มุมเมือง (ตลาดค้าส่ง)บอกเล่าประสพการณ์การเป็นพ่อค้าผัก(เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านกัลยาณมิตรที่เป็นเกษตกรครับ ยาวนะครับท่านที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ก็ไม่อ่านไม่เม้นก็ไม่ว่ากันครับ) ไปขายตลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมือง และตลาดผักในจังหวัดกาญจนบุรีครับ ผมไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ มัวแต่เก็บจดจำ ดู และสังเกตุอยู่ครับเลยลืมเก็บภาพครับ มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า… ประสพการณ์แรก ครั้งแรกในชีวิตกับการเป็นพ่อค้าขายผัก ครั้งแรกก็เล่นตลาดบิ๊กเนมเลยครับ ล่อสี่มุมเมืองเลยครับ วันที่ 15 เมษายน กลางสงกรานต์พอดีเลย เอาผักชีไปแค่ 18 กิโลครับ ที่เอาไปแค่นั้นเพราะอยากไปดูไปรู้ไปเห็นไปศึกษาการขายผัก และการเป็นคนขายผักเขาเป็นกันอย่างไร อีกอย่างตัวเองทำสวนคนเดียวก็สามรถถอน และเตาะใบเสียออก มัดกำผักชีได้วันละแค่นั้นหล่ะครับ เข้าไปถึงหน้าตลาดก่อนผ่านด่านเก็บเงินเข้าตลาด ไปถึงเวลาประมาณ 17.30 น.เจ้าหน้าจัดระเบียบรถก็โบกให้จอดชิดซ้ายต่อคิวจากคันอื่นๆที่จอดอยู่ก่อนแล้ว เลยคุยกับเจ้าหน้าที่เขาไปว่าผมมาขายครั้งแรก มาลองขายผักดูครับแนะนำผมด้วย เมือง (ตลาดค้าส่ง) ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประสบการณ์เป็นพ่อค้าใหม่ขายผัก ตอนที่1.ตลาดสี่มุมเมือง (ตลาดค้าส่ง)วันนี้ผมเอาประสบการณ์ตรงของ คุณออนซอนแกนิค สวนเกษตรลูกอิสาน ซึ่งได้เขียนบอกเล่าถึงประสบการณ์ในการเป็นพ่อค้าใหม่ที่จะไปขายผักตามตลาดขายส่งใหญ่ๆ หลายแห่ง ซึ่งวันนี้เป็นประสบการณ์ในการเข้าไปขายที่ตลาดสี่มุมเมืองครับ ประสบการณ์เป็นพ่อค้าใหม่ขายผัก ตอนที่ 1 ตลาดสี่มุมเมือง (ตลาดค้าส่ง)บอกเล่าประสพการณ์การเป็นพ่อค้าผัก(เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านกัลยาณมิตรที่เป็นเกษตกรครับ ยาวนะครับท่านที่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ก็ไม่อ่านไม่เม้นก็ไม่ว่ากันครับ) ไปขายตลาดสี่มุมเมือง ตลาดศรีเมือง และตลาดผักในจังหวัดกาญจนบุรีครับ ผมไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ มัวแต่เก็บจดจำ ดู และสังเกตุอยู่ครับเลยลืมเก็บภาพครับ มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า… ประสพการณ์แรก ครั้งแรกในชีวิตกับการเป็นพ่อค้าขายผัก ครั้งแรกก็เล่นตลาดบิ๊กเนมเลยครับ ล่อสี่มุมเมืองเลยครับ วันที่ 15 เมษายน กลางสงกรานต์พอดีเลย เอาผักชีไปแค่ 18 กิโลครับ ที่เอาไปแค่นั้นเพราะอยากไปดูไปรู้ไปเห็นไปศึกษาการขายผัก และการเป็นคนขายผักเขาเป็นกันอย่างไร อีกอย่างตัวเองทำสวนคนเดียวก็สามรถถอน และเตาะใบเสียออก มัดกำผักชีได้วันละแค่นั้นหล่ะครับ เข้าไปถึงหน้าตลาดก่อนผ่านด่านเก็บเงินเข้าตลาด ไปถึงเวลาประมาณ 17.30 น.เจ้าหน้าจัดระเบียบรถก็โบกให้จอดชิดซ้ายต่อคิวจากคันอื่นๆที่จอดอยู่ก่อนแล้ว เลยคุยกับเจ้าหน้าที่เขาไปว่าผมมาขายครั้งแรก มาลองขายผักดูครับแนะนำผมด้วยผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประสบการณ์เป็นพ่อค้าใหม่ขายผัก ตอนที่1.ตลาดสี่มุมเมือง (ตลาดค้าส่ง) “เขาจึงบอกว่าที่นี่เปิดให้ขายเป็นรอบๆสำหรับลานค้าผัก โดยเปิดรอบต่อไป 19.00น.ให้จอดรอนี้ก่อน ระหว่างจอดรอ รถคันอื่นๆที่มาจอดรอก็เปิดผ้าคลุมผักตัวเองออก” เลยสังเกตุเห็นว่าตอนจอดรอเข้าตลาดนั้นจะมีพ่อค้าตัดผักไปขาย หรือเอาไปขายต่อที่ตลาดอื่นๆเช่นตลาดไทเป็นต้น ถามได้ความว่าเวลาผักที่ตลาดไหนขาด เขาก็จะไปหาจากอีกตลาด ถ่ายเทกันไปมา นอกจากนั้นก็จะมีคนเมียนม่าร์ (ที่รู้เพราะฟังเขาคุยกันและคุยโทรศัพท์) มาตัดซื้อผักกับรถที่จอดรอเข้าตลาดนี้ด้วยเช่นกัน ถ้าตกลงราคาซื้อขายกันได้ก็ขนลงรถใส่รถเข็นที่มีพนักงานรับจ้างขนอยู่แล้วได้เลย ส่วนคันไหนตกลงราคาขายกันไม่ลงตัว หรืออยากเอาเข้าไปขายเองข้างในลาน หรือไม่มีคนตัดซื้อก็จะรอเข้ารอบต่อไปคือรอบ 19.00น.(ลองถามคนขนผักก็ทราบว่า ลานผักเปิดรอบละ 3 ชม.) ถ้าเราเอาผักเข้าไปขายในลาน สำหรับรถปิ๊กอัพเสียค่าเข้า 350 บาท (เอาผักไปมากน้อยก็ราคานี้ครับ) ถ้าสมัครเป็นสมาชิกแล้วจะลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็น รถ 6 ล้อ 10 ล้อก็ราคาแพงขึ้นตามลำดับครับ ระหว่างจอดรอก็จะมีคนเข้ามาถามไถ่หาตัดซื้อผักกันอยู่ตลอด ถ้าขายข้างหน้าตลาดได้ ก็ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าตลาด แต่หากคนที่ซื้อ เอาผักเข้าตลาด เขาจะต้องจ่ายเอง เท่าที่สังเกตุดูเป็นเช่นนั้นครับ ระหว่างรอก็เห็นว่าอาชีพพนักงานขนผักนั้นรายได้ดีมาก สอบถามน้องเขยที่ทำงานตลาดไทมา ก็ระบบคล้ายๆกันนี้ครับคือคนขนผักซื้อเสื้อวินจากตลาด ราคาไม่ถึงหมื่น น่าจะราวๆ 6000-8000นี้แหละครับ จำได้คร่าวๆ แล้วเวลาทำงานในแต่ละวันก็จ่ายเปอร์เซ็นรายได้ให้กับตลาด วันนึงไม่ถึงร้อยครับ จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ แต่ที่รู้ๆเห็นๆคือพวกเขาขนผัก หากขนไกลหน่อย ผักเต็มรถจะได้เที่ยวละประมาณ 200-300 บาท เลยถามน้องเขยที่ทำงานในตลาดไทดูเขาบอกว่า อาชีพคนขนผักจะมี รายได้วันละ ประมาณ 1500-3000 บาทโดยประมาณ รายได้ดีเหมือนกันแฮะ ผมปลูกผักขายก็ได้ไม่เท่าเขาวกเข้าเรื่องขายผักต่อครับ มีพ่อค้าตัดผักมาขอเหมาผมหลายคน ถามแล้วก็อมยิ้มไปด้วยพลางก็ว่า ผมมาตลาดใหญ่ขนาดนี้ เขาเอาผักมากันเป็นตันขึ้นไป ทำไมผมเอามา 18 กก. ก็บอกเหตุผลไปตามที่เกริ่นมาครับ (คนมันเคยกลัวๆกล้ามานานและอยากลองมาขายดูแต่ไม่ทำสักที วันนั้นตัดสินใจเป็นพ่อค้าครั้งแรกในชีวิต และก็มาตลาดบิ๊กเอ้พเลย) ผมอยากเข้าไปดูไปขายข้างในตลาด จึงไม่ขายให้พ่อค้าตัดซื้อด้านหน้า ยอมเสีย 350 บาท เข้าไปขาย ค่าน้ำมันไปกลับ กาญจนบุรี ตลาดสี่มุมเมือง ก็ 800 และครับ พอได้เวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยรถเข้าตลาด และก็จ่ายค่าเข้าในตลาดที่ด่านผ่านเข้าด้วยเลย พอเข้าไปตามรถที่เขาอยู่ก่อนหน้าแล้ว ไปถึงลานก็จะมีเจ้าหน้าที่ โบกรถให้เราจอดเข้าช่องจอด ซึ่งเราจะเลือกที่จอดไม่ได้ เขาจะจัดคิวเข้าตามลำดับเลย ผมได้ช่องแคบหน่อย กระจกรถแทบเบียดกัน เพราะคันซ้ายและขวาจอดกินที่มาหน่อย จอดรถได้ ก็สังเกตุดูพ่อค้าคนอื่นๆเขาทำกันยังไง ก็รู้ว่านี่เป็นลานขายผักกันบนรถเลย ผมก็เปิดท้ายรถเอาผ้าใบปู เอาผักชีมาวาง ยังไม่ถึง 2 นาที ก็มีแม่ค้าเมียนม่าร์ตัดผักรายย่อยมาถามซื้อ เอาไปนั่งขายปลีกที่ลานนั่งขาย ผมก็เช็คราคาขายปลีก และราคาส่งที่หน้าตลาดกับคนเข็นผักมาแล้ว จึงแจ้งราคาไป แม่ค้าคนนี้พึ่งมาหัดเป็นแม่ค้าใหม่เป็นครั้งแรก เอาหล่ะหว่าคนขายก็ใหม่ คนซื้อก็ใหม่ เขาจึงบอกว่า เขาพึ่งมาหัดขายวันแรก ขอไปดูราคาเจ้าอื่นๆก่อน ผ่านไปอีก1 นาที มีแม่ค้าเมียนมาร์อีกคนมาถามราคา ผมก็แจ้งราคาไป เขาขอลดลง กก.ละ 5 บาท เท่าที่ดู ก็ขอลดพอเป็นพิธี เพราะถ้าไม่ขอลดคงไม่ใช่ปกติของแม่ค้าแน่ๆ ซึ่งผมก็มาเพื่อศึกษาตลาดเฉยๆก็เลยขายให้ไป เขาเหมาหมดทั้ง 18 กก. ได้เงินมา 1260 บาท เลยถามพ่อค้าคนอื่นๆดูว่า ถ้าเราขายผักในรอบนี้ไม่หมดจะทำยังไง เขาก็บอกว่า วนใหม่คือออกไปแล้ววนเข้ามาจ่ายค่าเข้าตลาดใหม่ แต่จะเสียแค่ครึ่งราคาจากรอบแรกที่จ่ายไปครับ เขาก็พูดต่อท้ายว่า แต่เขาไม่เคยได้วน ก็ขายหมดในรอบเดียวทุกครั้ง วันนั้น ก่อนผมจะเข้าไปขาย ผมได้ลองโทรไปถามพ่อค้าคนกลางหลายคนว่าเขารับซื้อผักชีที่ราคาเท่าไหร่ ก็ทราบว่าเขาซื้อที่ กก.ละ 30 บาท บ้าง 35 บาท บ้างและเราต้องไปส่งเขาที่สี่มุมเมืองหรือตลาดไทด้วย แหมเนาะ ผมก็เลยตัดสินใจไปขายเองให้มันรู้กันไปเลย นั่นหล่ะครับที่มา ผลที่ได้คือ ผมขายได้ กก.ละ 70 บาท ถ้าผมไปทันรอบ 17.00น. ผมจะขายได้ กก.ละ 120 บาท นี้คือที่คนขนผักบอก ราคาจะขึ้นลงตามประริมาณผัก ในแต่ละรอบครับ สรุปคือผมเสียค่าน้ำมันรถไป 800 เสียค่าเข้าไปขายในตลาด 350 รวม 1150 ผมขายผักได้ 1260 คงเหลือ 110 บาท ก็ซื้อน้ำและขนมกินบ้างคงเกือบหมดพอดีครับ รู้สึกจะยาวไป โอกาสหน้าค่อยเล่าเรื่องตลาดศรีเมืองราชบุรี และตลาดผักในเมืองกาญนะครับ เจริญสุขครับท่านกัลยาณมิตรและเพื่อนเกษตกร
ข้อมูลจาก : คุณออนซอนแกนิค สวนเกษตรลูกอิสาน ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต เรียบเรียง : แชร์หน่อย เกษตรยุคใหม่ |