H2O Hydro Garden
ที่อยู่: เลขที่ 8 ซอย นาคนิวาส 53 ลาดพร้าว 71 แขวง ลาดพร้าว กทม. 10230
เบอร์โทร: 02 932 9200 มือถือ: 086 500 9698, 084 106 6831
.jpg)
.jpg)
.png)
ผักสลัดอันตรายจริงหรือ ปุ๋ยเอบีอันตราจริงไหม? Q1:ปุ๋ย A B คืออะไร? อันตรายไหมค่ะ? A1: ธาตุอาหาร A B (หรือ สาร A B) คือ ปุ๋ยกลุ่มA และกลุ่มB ที่เราใช้ในการปลูกผักไฮโดรฯ ที่ต้องแบ่งเป็นกลุ่ม A และ B ก็เพื่อไม่ให้นำมาผสมกันตอนที่เข้มข้นเพราะจะตกตะกอนทำให้สิ้นเปลือง ตอนใช้ปลูกจะเติมน้ำให้เจือจาง 1ต่อ200 คือปุ๋ย A, B=อย่างละ5 cc.เติมน้ำลงไป=1,000 cc. ปุ๋ย A และ B เป็นปุ๋ยเคมีครับ ซึ่งทำขึ้นโดยนำแร่ธาตุ/วัตถุดิบที่อยู่ในดินมา แยก, ผสม และทำปฏิกริยากันให้มีสูตรเคมืเหมือนกับปุ๋ยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น แคลเซียมไนเตรต (ที่เราเรียกว่าปุ๋ย N ซึ่งบางท่านอาจจะพอจำได้ว่าปมที่รากถั่วสามารถสร้างไนเตรตได้เหมือนกัน หรือพูดอีกแบบก็คือมนุษย์สร้างโรงงานทำปุ๋ยเรียนแบบการสร้างปุ๋ยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั่นเอง) ปุ๋ยเคมี หรือ ปุ๋ยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็น"สารประกอบ"ที่มีสูตรเคมีเหมือนกัน เช่น แคลเซียมไนเตรต คือ Ca(NO3)2 เวลาที่พืชดูดปุ๋ยไปใช้จะดูดในระดับไอออน กล่าวคือเมื่อปุ๋ยละลายในน้ำ จะแตกตัวเป็นไอออน Ca++ และไอออนNO3 - - พืชก็จะดูด(โดยวิธีออสโมซีส) ตามจำนวนเท่าที่ต้องการเท่านั้น ที่เหลือก็จะทิ้งไว้ในน้ำ ปุ๋ยเคมีจึงไม่ได้มีอันตรายใดๆ ปุ๋ยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือ ปุ๋ยอินทรีย์ดีกว่าตรงที่เกษตรกรผลิตได้เองที่ในไร่นา ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า กำไร ฯลฯ ผลิตออกมายิ่งแยะยิ่งดี ปุ๋ยจากธรรมชาติมีปริมาณไม่เพียงพอ(กับความต้องปุ๋ยทั้งโลก บางตัวมีมากไป/น้อยไป ดังนั้นถ้าไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลยจะไม่พอเลี้ยงชาวโลกครับ) การใช้ปุ๋ยอินทรีย์กำหนดสูตรปุ๋ยและปริมาณการใช้ปุ๋ยได้ไม่แม่นยำการใช้ถ้าต้องการผลผลิตสูงจึงมักจะต้องเผื่อๆไว้ทำให้สิ้นเปลือง สะสารในโลกนี้ทั้งหมดมี สะสารแต่ละตัวมีสูตรเคมี/ส่วนประกอบแน่นอนคงที่ ดังนั้นปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์จึงเหมือนกันเป๊ะ 100% ต่างกันตรงที่มาเท่านั้น Q2: แล้วพวกเรากลัวอะไรกันอยู่ค่ะ? A2: สารเคมีที่น่ากลัว คือ สารเคมีที่ใช้กำจัดแมลง และ โรคพืช (สารเคมีกำจัดศัตรูพืช) ตัวนี้อันตรายเพราะสร้างมาเพื่อ"กำจัด" คนทั่วไปเข้าใจสับสน ปนเปกัน ที่คนกลัวอีกตัวหนึ่งคือ การตกค้างของไนเตรต(ทั้งที่มาจากอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมีเหมือนกัน) คือเมื่อพืชดูดไนเตรตเข้าไปแล้วยังไม่เกิดการสังเคราะห์แสง (เพื่อเปลี่ยนให้เป็นธาติอาหารที่เป็นประโยชน์กับมนุษย์ เช่น คาร์โบไดรต โปรตีน ฯลฯ) จะเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ซึ่งสาเหตุมาจาก: พืชผักที่ปลูกบนดิน(ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์เหมือนกัน) การใส่ปุ่ย(ไม่สามารถกำหนดสูตรปุ๋ยโดยละเอียดและไม่สามารถวัดความเข้มข้นว่าตรงตามความต้องการของพืชผักหรือไม่) ใช้วิธีหว่านซึ่งตรงกับรากฝอยบ้างไม่ตรงบ้าง ฝนตกก็ชะล้างไปตามน้ำ ทำให้สิ้นเปลือง ถ้าใช้มากเพื่อเผื่อที่ศูนย์เสียไว้ บางต้นอาจจะโดนปุ๋ยจังๆมีโอกาสตกค้างได้มากกว่า Q3 : แล้วเราจะรอดพ้นจากสารเคมีอันตรายที่ใช้ในการกำจัดศัตรูพืชได้อย่างไร? A3: ดีที่สุดคือต้องปลูกผักทานเอง จึงจะได้ผล100% ครับ วิธีที่ปลอดภัยถัดมาก็คือซื้อผักไฮโดรฯที่แหล่งที่น่าเชื่อถือมารับประทาน ทั้งนี้เพราะระบบไฮโดรฯใช้ความสะอาดในการกำจัดและการตัดตอนการสะสมของโรคและแมลงได้มากกว่าระบบปลูกอื่นๆทั้งหมด เช่น ไม่มีดินให้แมลง/หนอน/ดักแด้และโรคสะสม/ซ่อนตัว; ไม่มีสารเคมีที่ฉีดไว้ในรอบปลูกก่อนๆสะสมตกค้างในดิน ถัดไปก็คือการซื้อผักปลอดสารจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเรียนรู้วิธีล้างผักอย่างถูกต้อง และทำจริงจังก็สำคัญเพราะลดปริมาณสารเคมีอันตรายได้มาก ผักทานสด(ที่มีประโยชน์มากกว่า) ต้องล้างและให้สนใจปลูกและแหล่งที่มามากเป็นพิเศษ เพราะไม่มีความร้อนช่วยในการกำจัดหรือลดความอันตรายของสารเคมี |