H2O Hydro Garden
ที่อยู่: เลขที่ 8 ซอย นาคนิวาส 53 ลาดพร้าว 71 แขวง ลาดพร้าว กทม. 10230
เบอร์โทร: 02 932 9200 มือถือ: 086 500 9698, 084 106 6831
.jpg)
.jpg)
.png)
มาทำความรู้จักผักสลัดของเรากันดีกว่า มาทำความรู้จักผักสลัดของเรากันดีกว่า
วันนี้มีข้อมูลดีๆจาก รศ.นิพนธ์ ไชยมงคล มาฝากกันค่ะ เกี่ยวกับผักสลัดของเรานั่นเอง สำหรับผู้ปลูกผักไฮโดรทุกท่านนะคะ เชื่อว่ามากกว่า 50%ของผู้ที่ปลูกผักไฮโดรเน้นปลูกผักสลัดกัน เลยนำข้อมูลมาแบ่งปัน เพื่อให้เรารู้จักผักที่เราปลูกกันมากขึ้น ชอบอะไรไม่ชอบอะไร ได้จะเอาใจถูกกันนะคะ
สลัด (LETTUCE : Lactuca sativa L.) อยู่ในพืชตระกูล Asteraceae (Compositae) ซึ่งค่อนข้างใหญ่ ประกอบด้วยพืช 800 สกุล 20,000 กว่าชนิด แต่สวนใหญ่ จะเป็นสายพันธุ์ป่ามีเพียงไมกี่ชนิดที่นำมาปลูกเพื่อการค้า สลัดเป็นพืช ที่นิยมบริโภคสดและประกอบอาหารมากที่สุด ประกอบด้วยน้ำ 95 % คาร์โบไฮเดรต 1-2 % โปรตีน 1-2 % และไขมัน 0.25 % Lactuca sativa เป็นสายพันธุ์กลุ่มเดียวที่นำมาปลูกเพื่อการค้า มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบที่ราบด้านตะวันออกของเขตเมดิเตอร์เรเนียน จากรูปวาดในหลุมฝังศพชาวอียิปต์ พบว่ามีการเพาะปลูกสลัดมานานกว่า 4,500 ปีก่อนคริสตศักราช โดยใช้เป็นพืชสมุนไพร
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ สลัดเป็นพืชฤดูเดียว มีลำต้นอวบสั้นและช่วงข้อถี่ ใบจะเจริญจากข้อเป็นกลุ่ม
ใบ ใบจะมีลักษณะ รูปร่าง และสีแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุ์ เช่น ใบกลม ใบรี ใบเรียบหรือมีหยัก หรือบิดงอ บางพันธุ์อาจจะมีใบหนาแข็งกรอบและบางพันธุ์อาจจะมีใบอ่อนนิ่ม มีสีเขียวอ่อนจนถึงสีเขียวเข้ม สีน้ำตาลปนแดง สีแดงและสีน้ำตาลเป็นต้น บางพันธุ์จะมีสีเดียวแต่บางพันธุ์อาจจะมีหลายสี ใบสีแดงจะมีวิตามิน ซี สูงกวาสีเขียว แต่จะสูญเสียหลังเก็บเกี่ยว ภายในเวลา 2-3 วัน
ระบบราก สลัดจะมีระบบรากแก้วที่เจริญหยั่งลึกลงไปในดินอย่างรวดเร็ว ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สามารถเติบโตได้ถึง 1 นิ้วต่อวันและเจริญลึกลงไปถึง 6 ฟุตเมื่อถึงระยะที่แทงช่อดอก ในดินที่มีความชื้นสูงและมีหนาดินตื้นรากจะไม่สามารถเจริญได้ดี ถึงแม้จะมีรากแก้วที่หยั่งลึก แต่รากจะมีขนาดเล็ก รากแขนงและรากฝอยจะอยู่อย่างหนาแน่นในระดับความลึก 30 ซม.
ช่อดอก เป็นแบบ panicle สูง 2-4 ฟุต ประกอบด้วยดอก 10-25 ดอกต่อช่อ เป็นดอกสมบูรณ์เพศกลีบดอกสีเหลืองหรือขาวปนเหลือง ดอกจะบานช่วงเช้า และปิดในระยะเวลาสั้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ ขบวนการผสมเกสรจะเสร็จสิ้นภายในเวลา 3-6 ชั่วโมง ดอกหนึ่งดอกประกอบด้วย เมล็ดหลายเมล็ด (involucres)ในสภาพอุณหภูมิสูง ช่วงแสงยาวจะกระตุนให้มีการแทงช่อดอกเร็ว ซึ่งจะเป็นปัญหาของ การผลิต ในฤดูร้อน
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สลัดเป็นพืชที่ตองการอากาศอบอุ่นอุณหภูมิและช่วงแสง มีอิทธิพลตอการเจริญเติบโต ทั้งในต้น ใบและการเจริญของดอก การปลูกในสภาพที่มีช่วงแสงยาว อุณหภูมิสูง ช่อดอกเจริญเร็ว ทำให้ผลผลิตและคุณภาพต่ำ อุณหภูมิที่เมล็ดสามารถงอกได้อยู่ระหว่าง 4.5-27.0 c อุณหภูมิที่เหมาะสมอยูระหว่าง 20-27 c สูงเกินกว่า 30 c เมล็ดจะพักตัว มีความงอกต่ำ ในอุณหภูมิ 33-35 c เมล็ดไม่สามารถดูดน้ำได้ อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต ต่ำสุด 7.2 c ปานกลาง 24.0 c สูงสุด 28.0 c ช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตคือ 24 cในสภาพอุณหภูมิสูง การเจริญทางใบจะถูกจำกัด มีเส้นใยมาก เนื้อเยื่อเหนียว และมีรสขม อุณหภูมิจะมีอิทธิพลต่อการเจริญของสลัดและสลัดบัตเตอร์มากกว่าสายพันธุ์อื่น นอกจากนี้ถ้าหากแปลงปลูกมีความชื้นสูงหรือมีอุณหภูมิสูง แห้งแล้งหรือในสภาพอุณหภูมิต่ำ ความชื้นสูง พืชจะแสดงอาการขาดแคลเซียมได้ง่าย ทำให้เกิดโรคปลายใบไหม (Tip burn)
แสง เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างอาหารหรือขบวนการสังเคราะห์แสง การเจริญเติบโตของ สลัดต้องการพลังงานแสง > 150 cal/ cm2/day คลื่นแสงที่มีความยาว 1000-720 nm จำกัดการงอกของเมล็ดพันธุ์ ความยาวของคลื่นแสงที่เหมาะสำหรับการงอกของเมล็ดอยู่ระหว่าง 690-650 nm เมื่อความเข้มของแสงสูง ช่วงแสงยาว อัตราการเจริญทางด้านลำต้นจะเพิ่มขึ้น ช่วงข้อยาว ใบชะงักการเจริญ ทำให้ใบสั้น ขนาดใหญ่ การปลูกในช่วงฤดูรอนที่มีความเข้มแสงสูง ควรจะพลางแสง
ที่มา : รศ.นิพนธ์ ไชยมงคล |