H2O Hydro Garden
ที่อยู่: เลขที่ 8 ซอย นาคนิวาส 53 ลาดพร้าว 71 แขวง ลาดพร้าว กทม. 10230
เบอร์โทร: 02 932 9200 มือถือ: 086 500 9698, 084 106 6831
.jpg)
.jpg)
.png)
การเปรียบเทียบระหว่างการวัดค่าpH ด้วย pH meter เทียบกับ การวัดด้วย drop test การเปรียบเทียบระหว่างการวัดค่าpH ด้วย pH meter เทียบกับ การวัดด้วย drop test ค่าpHนั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการปลูกพืชระบบไฮโดรโปนิกส์ เพราะค่าpHส่งผลถึงความเร็วในการเจริญเติบโตของพืชที่เราปลูก หากเราสามารถปรับค่าpHที่เหมาะสมได้ เราก็จะสามารถทำให้พืชที่เราปลูกเจริญเติบโตได้ดี ค่าpH จะมีช่วงการวัดอยู่ที่ 1 - 14 โดยจะนับค่าที่ 7 เป็นกลาง ดังนั้น หากวัดค่าได้ต่ำกว่า 7 แสดงว่าของเหลวนั้นเป็นกรด หากวัดได้สูงกว่า 7 ขึ้นไปแสดงว่าเป็นเบส การปรับค่า pH ผู้ปลูกจะต้องปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับอายุการปลูกและชนิดของพืชนั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีค่าpHที่เป็นกรดอ่อนๆ คือค่าระหว่าง 5.5 -6.6 โดยการปรับค่าpHนั้นส่วนใหญ่จะปรับค่าโดยใช้กรดไนตริกใส่ลงไปในน้ำ เพราะเป็นธาตุอาหารที่พืชสามารใช้ได้ด้วย (HNO3) และถ้าพูดถึงการวัดค่า pH แล้ว วิธีการวัดจะมี 3 วิธีหลักคือ การใช้ pH meter การใช้ drop test และ การใช้ pH paper เนื่องจากการใช้การดาษวัดค่า pH หาชื้อค่อนข้างยาก และมีราคาแพง H2O Hydro Gardenจึงไม่ค่อยแนะนำให้ใช้ pH paper ซักเท่าไหร่ ดังนั้น บทความนี้จะพูดถึงแค่การเปรียบเทียบระหว่างการใช้ pH meter และ การใช้ drop test เท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้ว ทางร้านจะแนะนำให้ใช้ drop test เพื่อที่จะวัดค่าpH เพาะเป็นวิธีที่ถูกที่สุด เหมาะสมกับเจ้าของฟาร์มผักที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะน้ำยา drop test ราคาถูกและไม่ต้องใช้ถ่าน เครื่องไม่เสีย ถึงอย่างไรก็ตามข้อเสียของการใช้ drop test ก็ยังคงเป็นเรื่องของการใช้ที่ยากกว่าและใช้เวลาในการวัดนานกว่าแบบอื่น ต้องใช้ความชำนานในการอ่านค่าสีที่ออกมา อีกทั้งยังไม่สามารถบอกค่าที่เที่ยงตรงได้เหมือนการวัดด้วยเครื่อง pH meter แต่สำหรับใครที่ต้องการเน้นความสะดวกสบาย เครื่องpH meterอาจจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะสะดวกและใช้งานง่าย แม่นยำโดยแสดงผลเป็นหน่วยจุด อ่านค่าได้ง่าย แต่เครื่องวัด pH meter มีข้อเสียหลักตรงที่ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานที่ต่ำ โดยอายุเฉลี่ยคือ 1 ปี หากใช้แล้วเก็บรักษาไม่ดี มีโอกาสที่ค่าที่แสดงจะเพี้ยน หรือเครื่องเสียค่อนข้างมาก นอกจากนั้นยังต้องคอยคาริเบตเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องทำงานปกติอยู่เสมอ นอกจากนี้อุณหภูมิของน้ำยังมีผลต่อค่าpHในการวัดด้วยเครื่อง pH Meter ซึ่งทำให้ค่าที่ได้ไม่นิ่ง อาจส่งผลให้เกิดการผิดพลาดในการอ่านค่าได้ รู้อย่างนี้แล้ว สำหรับใครที่ต้องการวัดค่า pH ของน้ำ ก็ลองตัดสินใจดูได้นะคะว่าอันไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด และสำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเลือกใช้ หรือวิธีการใช้และการปรับค่าน้ำให้เหมาะสมกับผักที่เราปลูก สามารถติดต่อมาที่ Line:@h2ohydrogarden ได้นะคะ เรายิงดีให้คำปรึกษาค่ะ สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกผัก
|