เมื่อความรวยทำร้ายสุขภาพ
ReadyPlanet.com
dot
test member
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot


facebook.com/h2ohydrogarden hydroponics soilless culture
h2ohydrogarden@hotmail.com/chu0880 hydroponics soilless culture
BANSABAI hostel
Department of Agricultural Extension
Kasetsart University h2ohydrogarden hydroponics soilless culture
IG:h2ohydrogarden
Line:h2ohydrogarden


เมื่อความรวยทำร้ายสุขภาพ

 เมื่อความรวยทำร้ายสุขภาพตัวเอง

 

 

นพ.กฤษดา  ศิรามพุช,พบ.(จุฬาฯ)

ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ

American Board of Anti-aging medicine

drkrisda@gmail.com

                คนมีสตางค์ทำอะไรก็ไม่ผิด?

                แต่ถ้าคิดใหม่ก็คือ

                คนมีสตางค์อาจถูกเชียร์ให้รักษาสุขภาพแบบผิดๆ

                ยกตัวอย่างง่ายๆว่า  ถ้าท่านยังสุขภาพดีก็อาจมีคนมาเชียร์ขายวิตามินและอาหารเสริมจากทั่วทั้งยุทธภพ

                แต่ถ้าลงป่วยขึ้นมาเมื่อไร ละก็

                จะถูกเชียร์ให้ตรวจเยอะ ทั้งเจาะเลือด สแกนเข้าอุโมงค์ ส่องกล้อง และอะไรต่อมิอะไรอีกมาก

                เมื่อถึงคราวต้องรักษา  ถ้ามีสตางค์มาก ก็จะมีแนวโน้มว่าท่านจะได้รับข้อเสนอของการรักษาที่ ครอบจักรวาล

-                    ยาเยอะๆ  เอาให้หลายชนิดครอบจักรวาลเข้าไว้  ป้องกันมันไปเสียทุกโรค  จนลืมไปว่าคนไข้อาจอิ่มยาก่อนข้าว

-                    ไม่ค่อยอยากรอดูอาการ  แต่ท่านจะถูกพาไปทำการผ่าตัดได้โดยเร็วเพราะท่านมีทุนทรัพย์รองรับอยู่เพียบ

มิหนำซ้ำตัวท่านเองก็อาจเคลิ้มๆเชื่อไปด้วยว่า ผ่าๆไปเถอะเพราะ มันจำเป็น

มีหลายกรณีครับที่คนไข้อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวว่ายังไม่ต้องกินยาก็ได้หรือยังไม่ต้องผ่าตัด  แต่เมื่อมีสตางค์ที่จะจ่ายได้แล้ว  แพคเกจการผ่าตัดพร้อมห้องเดี่ยวสุดหรูเพื่อพักฟื้นก็จะถูกนำมาเสนอ  เผลอๆกลายเป็นเรื่องฉุกเฉินรอไม่ได้ไป

แต่ลองไม่มีสตางค์สิครับ  ข้อเสนอเปลี่ยนไปอีกแบบแน่

ยุคนี้มาเก็ตติ้งเทพยิ่งนักครับ

หรือยากินก็จะถูกเชียร์ว่าใช้ยานอกดีกว่า  น่าใช้  หายได้  ตบท้ายด้วย ราคาแพงส่วนการผ่าตัดนั้นก็จะถูกจัดขึ้นอย่างว่องไวเพื่อให้สบายใจทั้งคนผ่าตัดและสนองนี้ดของผู้มีทรัพย์

                                                ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 10 ภัยสุขภาพของคนมีตังค์

การมีเงินมากในสังคมที่มีการพาณิชย์สูงอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปครับ  ความใส่ใจในเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่ดี  แต่ท่านก็มีแนวโน้มที่จะตกหลุมดำกลายเป็น หนูทดลองโดยไม่รู้ตัว

ยกตัวอย่างง่ายๆ  มีการทดลองใช้ สเต็มเซลล์ในผู้ป่วยที่มีฐานะร่ำรวยกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับโรคที่ยังไม่มีงานวิจัยรองรับ  แต่คนไข้ก็ถูกพูดให้ฟังจนเคลิ้มว่าจะเป็น ความหวังใหม่ที่เจิดจรัส

แพงแค่ไหนก็ยอมจ่าย และยอมพลีกายเป็นหนูทดลอง

แต่อย่าลืมทีเดียวนะครับว่า  ถ้ามันเป็นประกายแห่งความหวังจริง  แถมยังเป็นการทดลองด้วยก็ไม่น่าจะแพงบ้าเลือดเป็นหลักแสนหลักล้าน

ถ้ายังเป็นแค่การทดลองและอยากให้คนไข้หาย  ก็ไม่น่าจะขายกันแพงอุตลุด

                ถ้าท่านอยากจะหยุดวงจรนี้ไม่ยากครับ  ขอให้อ่านเคล็ดลับต่อไปนี้ว่ามีอะไรที่จะเข้ามาหาท่านได้บ้างในชีวิตจะได้ตั้งรับไว้

1)              ยาเยอะ  มีแนวโน้มที่จะได้รับยาที่อ้างว่าเป็น ยาใหม่” “ยานอกจนฟังดูเหมือน ยาดีกว่าคนอื่น  แต่จริงแล้วยาใหม่นั้นมีหลายชนิดที่มีผลข้างเคียงยังไม่ทราบแน่ชัดเพราะเพิ่งถูกใช้มาไม่นาน  แต่คนที่มีตังค์ก็อาจได้สิทธิ์ หนูลองยานั้นไปก่อนฟรีๆด้วยความเต็มใจก็ได้ครับ

2)              หมอเยอะ  ยิ่งคุณหมอเยอะก็ใช่ว่าจะยิ่งดีเสมอไปนะครับ  เพราะอย่าลืมว่าคุณหมอแต่ละท่านก็มีแนวคิดของตัวเอง  มันอาจมาพร้อมกับการเสียเลือดเลือด กินยาเยอะและที่สำคัญคือตรวจเยอะโดยไม่จำเป็นได้ครับ

3)              ตรวจเยอะ  นี่คือผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากท่านถูกพาไปตรวจจนช่ำปอดจากแผนกต่างๆสุดแล้วแต่ทุนทรัพย์จะอำนวยแล้ว  คุณหมอผู้เชี่ยวชาญแต่ละแผนกก็จะพาท่านไปตรวจอย่างละเอียดในสำนักของท่าน  ยิ่งมากสำนักท่านก็ต้องเสี่ยงกับการเสียเลือด,รับรังสีเอ็กซเรย์จากการสแกน และหนักไปกว่านั้นคือท่านอาจได้คำตอบว่า ตรวจไม่พบความผิดปกติได้ง่ายๆ

4)              เสี่ยงผ่าตัดเยอะ  เมื่อพบกับคุณหมอและการตรวจแล้ว  การส่งตัวไปผ่าตัดก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว  ฟังดูว่าทุกการผ่าตัดต้องมีกฏเกณฑ์ตายตัว  แต่ในความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ  ยกตัวอย่างผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี  คุณหมอท่านหนึ่งอาจบอกส่องกล้องได้  แต่อีกท่านบอกผ่าธรรมดาปลอดภัยกว่า  พูดง่ายๆว่าท่านอาจเสี่ยงผ่าตัดได้มากหากปักใจเชื่อแต่คำแนะนำเดียว

5)              สเต็มเซลล์และวิตามินต้านชราเยอะ  คนมีเงินในยุคนี้ถูกรุมจากธุรกิจสุขภาพเยอะครับ  เพราะของพวกนี้มีราคาสูงและเป็นธุรกิจใหญ่ในวงการสุขภาพมาก  จึงถูกนำมาเชียร์ขายกันในหมู่ผู้มีกำลังซื้อสูง  อย่างสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัยก็ยังไม่มีงานวิจัยรับรองแต่ก็ถูกนำมาเชียร์ขายแม้ในวงการแพทย์เอง  ด้วยคำตอบเพียงอย่างเดียวคือ เพื่อเงิน

6)              ฮอร์โมนเยอะ  คนไม่อยากแก่(แต่มีเงิน)มีความหวังอยู่ในใจลึกๆว่าต้องมีของวิเศษมาช่วยชะลอวัยได้  จึงทำให้ธุรกิจ ขายความสวยมีเม็ดเงินสะพัดมหาศาล  เรื่องการฉีดฮอร์โมนแล้วช่วยให้ไม่แก่นั้นมีอยู่จริงครับ  แต่เป็นสิ่งที่ต้องแลกมา  ขอท่านที่รักจำคำนี้ไว้ให้ดีครับ  ว่าท่านอาจต้องแลกกับ มะเร็ง ที่มาจากฮอร์โมนและแลกกับอันตรายที่มาจากฮอร์โมนสังเคราะห์

7)              เสริมสวยเยอะ ซื้อคอร์สมาก  ยิ่งกระเป๋าคุณหนักก็ยิ่งเป็นเป้านิ่งของการขายคอร์สสุขภาพต่างๆนาๆ  เพราะว่าธุรกิจเสริมสวยอยู่ได้ด้วยการขายคอร์สกับครีมกวนเองราคาแพงหูฉี่  ดังนั้นถ้าคุณคือคนที่พร้อมจ่าย  คุณก็จะต้องจ่ายอยู่เรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด  ถ้าจะหยุดก็ต่อเมื่อคุณหมดตัวนั่นละครับ  เรื่องเสริมสวยนี่ต่อให้มีมากเท่ามากก็หมดได้ครับ 

8)              ถูกเชียร์ให้เป็นหนูทดลองของใหม่(แต่แพงยาใหม่ ทรีตเมนต์ตัวใหม่  วิตามินและการล้างพิษแบบใหม่ๆที่แพงแสนแพง  เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน  อาจมีบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูน่านับถือมาชักชวนให้คุณใช้เพราะได้กลิ่นเงินที่อยู่ในกระเป๋าที่ปิดไม่มิด  ชีวิตที่พร้อมจ่ายจะเข้าสู่อันตรายก็เพราะเหตุนี้ครับ  ถ้าเขาทั้งรักทั้งห่วงสุขภาพของคุณจริงก็น่าจะให้ใช้ทดลองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่านะครับ

9)              ผู้หวังดีเยอะ  ผู้หวังดีที่ว่ามีทั้งจากคุณหมอเองและผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ  พูดถึงสรรพคุณการรักษาแบบต่างๆ ทั้งล้างพิษ,คีเลชั่น,ฉีดวิตามิน,กินฮอร์โมน,สแกนเลือด,ฉีดสเต็มเซลล์ให้หนุ่ม,ร้อยไหม  ใช้สารพัดวิธีที่เอามาแนะนำยามท่านป่วย  ก็ขอให้ท่านใช้เทคนิคดูง่ายๆก็แล้วกันครับว่า ถ้ามันดีจริงก็น่าจะถูกใช้กันในโรงเรียนแพทย์ด้วยเพราะของดีย่อมเป็นสากลถูกไหมครับ

10)        กินของดีซ้ำซาก  ของดีจะเป็นผู้ร้ายได้ถ้าได้รับมากเกินไป  คนมีสตางค์มักมีแนวโน้มกินดีอยู่ดี  มีแนวโน้มที่จะมี ไขมันเกาะตับ, นอนไม่หลับเพราะอยู่ดึก, ติดอัลกอฮอล์จากไวน์และบรั่นดี ฯลฯ  นอกจากนั้นความสบายอาจทำให้ลืมออกกำลังกายซึ่งเป็นวิธีล้างพิษง่ายๆขั้นมาตรฐาน  ในบางท่านกินโสม,หูฉลาม,ถั่งเฉ้าหรือสมุนไพรราคาแพงบ่อยครั้งจนได้รับโลหะหนักและยาฆ่าแมลงตกค้างอย่างไม่รู้ตัว  ดังนั้นการกินดีอยู่ดีที่มากเกินไปอาจจำเป็นต้องแลกมาด้วยชีวิตได้  แก้ง่ายๆคือ กินอย่างพอดีดีกว่าครับ

 

หลายท่านที่มีสตางค์บอกว่า เสียตังค์ไม่ว่าถ้าหายหรือขอให้หายป่วยเถิด  ท่านที่รักทราบไหมครับว่า  ความคิดนี้เองที่ทำลายสุขภาพของเราได้  เพราะในโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งนำเครื่องมือที่ยังไม่ถือเป็นมาตรฐานในการรักษามาใช้รักษามะเร็ง,รักษาโรคและสแกนหาโรคภัยไข้เจ็บ  ทั้งที่รู้ดีว่ามันไม่ใช่เครื่องมือมาตรฐานทางการแพทย์  แต่ด้วยคนไข้ที่มี สตางค์ถึงก็จะถูกบรรจงเชียร์ให้ใช้ให้ทดลอง

ต้องดูให้ดีนะครับ  เพราะหลายอย่างมีผลข้างเคียงแต่ถูกปิดเงียบไว้

เสียตังค์น่ะไม่ว่าครับแต่ถ้าเสียสุขภาพนี่มันไม่คุ้มกันเลยครับ

ถึงบรรทัดนี้หลายท่านอาจรู้สึกว่าการแพทย์มันต้องมีหลักการทั้งการให้ยาและการผ่าตัดย่อมต้องมีกฏเกณฑ์

ถูกอยู่ครับ แต่มันไม่ตายตัว

คำสำคัญอยู่ที่ ขึ้นกับวิจารณญาณของแพทย์

มันก็เหมือนกับเวลาท่านเป็นหวัด  ท่านก็ยังรู้สึกว่าไม่ต้องกินยาได้  แต่เพื่อนรอบข้างอาจบอกให้ท่านรีบกินยาดีกว่า  เห็นไหมครับแม้ตัวท่านเองก็ยังมีความคิดที่ต่างออกไปได้

จึงไม่น่าแปลกที่คุณหมอต่างคนก็ต่างคิดของตัวเองแม้ในหลักใหญ่จะเหมือนกันแต่ในทางปฏิบัติแล้วต่างกันแน่นอนครับ  เขาจึงเรียกว่าการประกอบโรค ศิลปะเพราะมันเป็นศิลป์เฉพาะบุคคลจริงๆ  ขอท่านที่รักอย่าคิดว่าสิ่งนี้มีหมอเท่านั้นที่ทำได้นะครับ

                                                        ตัวท่านเองต่างหากครับคือศิลปินที่เก่งสุด

 

 




สาระน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพ

4 สูตรเด็ดน้ำสลัดเจ สำหรับคนรักสุขภาพ
เลือกสลัดบาร์อย่างไรให้หุ่นดี
ผักปลอดภัย..ดูยังไง
7 ผลไม้ที่กินแล้ว สามารถนำมาปลูกใหม่ได้ พร้อมวิธีการปลูกแบบง่ายๆ
3 กลเม็ดเคล็ด(ไม่)ลับ เก็บผักให้นาน
10 เทคนิคเก็บของในตู้เย็นให้อยู่นาน
7 ขั้นตอนช่วยเพิ่มการเผาผลาญร่างกายให้ดีขึ้น
ผักไฮโดรต้องล้างแบบไหน?
10 เคล็ดลับถนอมอาหารให้อยู่นาน
มนุษย์เฮลตี้ต้องรู้ กินผักต่อวันเท่าไหร่ถึงจะพอ article
12 เคล็ดลับทานอาหารเพิ่งพลังสมอง สำหรับนักเรียน-วัยทำงาน
ทำไมต้องกินคลีน
10 ท่าโยคะเพื่อสุขภาพ
เคล็ดลับอายุยืนยาว
ทานไข่ทั้งฟอง
สารพิษตกค้างในผัก
ปลูกผักช่วยป้องกันน้ำท่วมได้อย่างไร
เชื้ออีโคไล article
กินผักผลไม้ช่วยชาติได้อย่างไร
เคล็ดลับอายุยืนหมื่นปี- โดย ดร. สุพาพร เทพยสุวรรณ
กินอยู่อย่างไรห่างไกลจากโรค- โดย น.พ. พัฒนา เต็งอำนวย MD., PhD.